การวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ การใช้เครื่องมือ (Tool) ตัวชี้วัด( Indicator) และรูปแบบกราฟต่างๆ (Chart pattern) ในการคาดการณ์ว่าแนวโน้มในอนาคตจะเป็นอย่างไร
เครื่องมือ (Tool) คือเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ Trendline Fibonacci เป็นต้น
ตัวชี้วัด (Indicator) คือ เป็นตัววัดการเคลื่อนที่ของราคา ซึ่งจะเกิดหลังราคา อินดิเคเตอร์ แบ่งออกเป็น 2แบบใหญ่ๆ คือ ตัวชี้วัดที่บอกแนวโน้ม (Trend Indicator)และตัวชี้วัดที่วัดการแกว่งของตลาด(Oscilator Indicator)Trend Indicator ได้แก่ Moving Average Bolinggerband Parabolic sar และ Oscilator Indicator ได้แก่ MACD , Stochastic , RSI , CCI , ADX
รูปแบบกราฟ (Chart Pattern) เป็นรูปแบบการสร้างตัวของกราฟ ได้แก่ รูปแบบของกราฟแท่งเทียน ( Candlestick Pattern) รูปแบบการกลับตัว (Reverse Pattern)
ทั้งหมดเหล่านี้ สามารถเรียนรู้ได้จาก www.babypips.com (ภาษาอังกฤษ นะครับ)
เครื่องมือที่ใช้การเกร็งกำไรสำหรับมือใหม่่
- Moving Averag e (Exponenetial) :EMA period 5 และ period 20
ฺี สัญญาณซื้อ ( Buy Signal ) ฺี Buy เมื่อ EMA 5 ตัด EMA 20 ขึ้นไป สัญญาณขาย ( Sell Signal) Sell เมื่อ EMA 5 ตัด EMA 20 ลงมา
-Parabolic Sar ค่าเดิมไม่ต้องเปลี่ยนแปลง
สัญญาณซื้อ (Buy Signal) Buy เมื่อ เกิดจุดไข่ปลาปรากฏด้านล่างของเส้นราคา และ สัญญาณขาย (Sell Signal) Sell เมื่อ เกิดจุดไข่ปลาปรากฏอยู่ด้านบนของเส้นราคา
-Moving Average Convergence Divergence : MACD (12-26-9) ค่าเดิมไม่ค้องเปลี่ยนแปลง
สัญญาณซื้อ (Buy Signal) Buy เมื่อ เส้น macd line ตัด Signal line ขึ้นไป และ สัญญาณขาย (Sell Signal) Sell เมื่่อ Macd line ตัด signal line ลงมา
หลักการเบื้องต้นในการวิเคราะห์กราฟ
หลักการเบื้องต้นของการวิเคราะห์กราฟ ก่อนอื่นเลยสิ่งที่เราต้องรู้ก็คือ แนวโน้มจะไปทางไหน ขึ้นหรือลง เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันขึ้น
หรือรู้ได้อย่างไรว่ามันลง หรือว่าขึ้นแค่ไหนถึงจะสุดสูงสุดและต่ำสุดตรงไหน คำตอบของปัญหานี้ก็คือ การใช้เส้นแนวโน้ม (Trend line)
ซึ่งเราจะใช้เครื่องมือนี้ในการหาแนวโน้มของราคา แนวโน้มแบ่งออกเป็น 3 แบบ 1.แนวโน้มขึ้น ( Up Trend) 2. แนวโน้มลง ( Down Trend)
3.Sideway
UP TREND แนวโน้มขาขึ้น
แนวโน้มขาขึ้น ดูแล้วก็ไม่ยากอะไรใช่มั้ยครับ ขึ้นลงสลับฟันปลา แต่ก็มีข้อจำกัด
High ใหม่ ต้องสูงกว่า High เก่า และ Low ใหม่ต้องสูงกว่า Low เก่า
นิยามของ Up Trend คือ
Hn...> H3 > H2 > H1 และ
Ln ... > L3 > L2 > L1 ( L=Low จุดต่ำสุด H=High n= แทนจำนวนยอดคลื่นลูกใดๆ 1 2 3 ..n
Down Trend แนวโน้มขาลง
แนวโน้มขา จากรูปจะเห็นว่า จุดต่ำสุดใหม่ต้องต่ำกว่าสุดต่ำสุดเก่า และสุดสูงสุดใหม่ ต้องต่ำกว่าจุดสูงเก่าอันเก่า
นิยามของแนวโน้มขาลง คือ Hn ...< H3 < H2 < H1 และ Ln...< L3 < L2 < L1
Sideway
คือ การเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงกรอบราคาแคบๆ มีทิศทางไม่แน่นอน จะขึ้นก็ไม่ขึ้น จะลงก็ไม่ลง จะค่อนข้างราบเรียบขนานไปกับพื้น
flat และ channel
การใช้เส้นแนวโน้ม(Trendline)ในการทำกำไร
เทรนไลน์เป็นเครื่องมือตัวหนึ่่งที่สามารถใช้ทำกำไรให้กับเราได้ นอกจากจะใช้้บอกแนวรับ-แนวต้าน แล้ว ยังสามารถบอกจุดเข้า-จุดออก ให้เราได้อีกด้วย
-
การใช้เส้นแนวโน้ม เพื่อทำกำไร โดยการเลือกที่
Tool ที่ชื่อว่า
Trendline แล้ว
ลากจากจุดสูงสุดเก่ามาหาจุดสูงสุดใหม่ และ
ลากจากสุดต่ำสุดเก่า มาหาจุดต่ำสุดใหม่
-จากรูปด้านบน
หมายเลข 1 เป็นจุดต่ำสุดราคาได้มีการปรับตัวขึ้นไปที่ หมายเลข 2 และปรับตัวลงมาหาหมายเลข 3 เมื่อมาถึงหมายเลข 3 แล้วราคามีการกลับตัวขึ้นไปอีก ดังนั้นเราควรจะลากเทรนไลน์์ จากหมายเลข 1 ลากผ่านหมายเลข 3 ขึ้นไป จากนั้นก็รอดูสัญญาณที่หมายเลข 4 ถ้าสามารถทะลุหมายเลข 4 ได้ ให้เราเปิด ออเดอร์ Buy ทันที แล้วนั่งรอ นอนรอ หรือไปทำอย่างอื่น รอจนกว่าราคาจะตัดเส้นแนวโน้มขาขึ้นลงมาอีกครั้ง เราจึงปิดออเดอร์ Buy ที่หมายเลข 5 และรอสัญญาณการทดสอบ ที่หมายเลข 5 อีกครั้ง ถ้าไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ เราก็เปิดออเดอร์ Sell แล้วรอจนกว่า ราคาจะทะลุุเส้นแนวโน้มขาลง ขึ้นไปอีกครั้ง เราจึงปิดออเดอร์ Sell ที่หมายเลข 6 เห็น มั้ยครับ ว่าไม่ยากเลยสำหรับการใช้เทรนไลน์ในการเกร็งกำไร กับตลาดฟอเร็ก สามารถประยุกต์ใช้ได้ทุกค่าเงินและทุกช่วงเวลานะครับ ...$$
การเข้าซื้อ-ขาย โดยใช้หลักการณ์ 123 Buy -Sell
-การเข้าซื้อ-ขายโดยใช้หลักการของ 123 buy -sell นี้ เป็นหลักการที่ใช้ทั่วไป ซึ่งสามารถทำกำไรได้ ดูตามรูปด้านล่างประกอบเลยนะครับ
-123 Buy สัญญาณซื้อ(Buy Signal) จะเกิดเมื่อราคาได้วิ่งผ่าน เส้นประที่ระดับหมายเลข 2 เราจึงเปิด ออเดอร์ Buy ทันที
-123 Sell สัญญาณขาย (Sell Signal) จะเกิดเมื่อราคาได้วิ่งผ่าน เส้นประที่ระดับหมายเลข 2 เราจึงเปิด ออเดอร์ Sellทันที
เครดิต fx-dd.makewebeasy.com ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น